เมื่อพูดถึงจักรวาล DC ส่วนใหญ่เราจะนึกถึง Batman ผู้เงียบขรึม, Superman ผู้สมบูรณ์แบบ หรือ Wonder Woman ผู้ทรงศีล แต่มีกลุ่มเดียวที่ไม่เคยทำตามกฎและมีแนวคิดชวนปวดหัวที่สุดในเมืองเมโทรโพลิส—ใช่ครับ นั่นคือ Suicide Squad
และครั้งนี้พวกเขากลับมาแบบไม่ธรรมดา เพราะภารกิจใหม่คือ…
“ฆ่า Justice League ทั้งทีม”

นี่คือคอนเซปต์ที่ทำให้โลกเกมสะเทือนตั้งแต่วันประกาศตัว เพราะมันไม่ใช่แค่การต่อสู้ธรรมดา แต่เป็นการประกาศสงครามระหว่างวายร้ายระดับถังขยะ กับเหล่าฮีโร่อันดับหนึ่งของโลก และผลลัพธ์ก็คือความวุ่นวายแบบสุดขั้วที่ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในผลงาน Rocksteady ที่คนพูดถึงมากที่สุด
เปิดเกมมาก็วุ่นวายพอ ๆ กับตอนเข้าเว็บ สมัคร UFABET แบบยังไม่รู้จะเจออะไร แต่รู้แน่ ๆ ว่าโคตรมันแน่!
Suicide Squad: Kill the Justice League คือส่วนผสมระหว่างบ้าดีเดือด แอ็กชันจัดหนัก เนื้อเรื่องที่ตึงเครียด และอารมณ์ขันแบบแสบ ๆ คัน ๆ ที่ใครเป็นแฟนซีรีส์นี้ต้องยิ้มออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
❖ เรื่องราวสุดวุ่นวายใน Metropolis—ครั้งนี้ฮีโร่ไม่ได้มาช่วย แต่ “เป็นศัตรูตัวฉกาจ”
เกมเริ่มจากการที่ Brainiac บุกโลกและยึดครองเหล่า Justice League ให้เป็นหุ่นรับใช้
ผลลัพธ์คือ Superman, Flash, Green Lantern และ Batman กลายเป็นศัตรูโดยสมบูรณ์
รัฐบาลจึงต้องจับเอากลุ่มวายร้ายอย่าง…
- Harley Quinn
- Deadshot
- Captain Boomerang
- King Shark
มาทำงานที่ไม่มีใครอยากทำ
พร้อมคำขู่ “ถ้าไม่ทำ—ระเบิดในคอจะทำงาน”
นี่แหละ Suicide Squad ที่แท้จริง
และงานนี้ก็ไม่มีใครมั่นใจด้วยซ้ำว่าทีมนี้จะรอดหรือจะพังไปก่อน
เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผสมดาร์กคอมเมดี้แบบจัดจ้าน
ทำให้ผู้เล่นได้เห็น “อีกด้าน” ของจักรวาล DC
ที่สลับบทฮีโร่กับวายร้ายแบบสุดโต่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา
❖ ตัวละครแต่ละคนคือความวุ่นวายเคลื่อนที่—และเกมเพลย์สะท้อนบุคลิกได้ดีจนทึ่ง
หนึ่งในจุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดของเกมนี้คือ “ความต่างของตัวละคร”
เพราะแต่ละคนเล่นไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว
✦ Harley Quinn
คล่องตัวที่สุดในทีม ใช้ grappling hook แบบ Batman
แต่เล่นบ้ากว่าหนักกว่า ทำอะไรเดาทางไม่ได้
ความรู้สึกเหมือน Spider-Man ที่กินกาแฟสิบแก้ว
✦ Deadshot
สายยิงแบบลื่นสุด ๆ
อาศัย hover jetpack เพื่อเล็งยิงจากฟ้า
ให้ฟีล FPS ผสมการเคลื่อนไหวแบบ free-flow
✦ Captain Boomerang
ความเร็วระดับไม่เกรงใจ Flash เลย
กระโดดวาร์ปทีหายไปครึ่งแมพ
เล่นโคตรมันแบบมือไม่หยุด
✦ King Shark
แทงก์สายบ้าพลัง
เข้าไปตบศัตรูปลิวทั้งหน้าจอ
เหมาะกับคนชอบเกมเพลย์แบบเข้าประชิดโลดโผน
เกมสามารถทำให้ “สี่คนนี้วุ่นวายแบบมีเสน่ห์” ได้อย่างลงตัว
จนหลายคนบอกว่านี่คือทีมที่โง่ที่สุดและเก่งที่สุดในจักรวาล DC พร้อมกัน
❖ เมือง Metropolis ที่คึกคัก มีชีวิต และ “ใหญ่จนบินไปเมื่อยมือ”
Rocksteady ออกแบบเมืองได้ดีเหมือนเดิม
แถมยกระดับฉากในภาคนี้ให้ใหญ่กว่า Arkham Knight แบบหลายเท่า
เมืองเต็มไปด้วย:
- อาคารสูง
- พื้นที่เปิดโล่ง
- โซนทำภารกิจ
- ศัตรูตามตรอกซอกซอย
- ฉากไล่ล่าแบบกว้างสุดลูกหูลูกตา
คุณสามารถยิง grappling, บิน, กระโดด, วาร์ป หรือวิ่งเร็วระดับเหนือมนุษย์ได้
ทำให้ “การเคลื่อนที่” คือไฮไลต์สำคัญของเกมนี้
บอกเลยว่าบางเกมใช้เวลา 80% ไปกับเดิน
แต่เกมนี้ใช้เวลา 80% ไปกับ “ปลิวกลางอากาศ” แบบมันสะใจ
❖ การต่อสู้ที่เร็ว โหด และวุ่นวายที่สุดของ Rocksteady
หาก Arkham Knight คือ “แอ็กชันแบบคนเก่งต่อสู้ด้วยมือ”
Suicide Squad คือ “แอ็กชันความบ้าระห่ำของวายร้ายสี่คนที่เล่นเหมือนหนังซูเปอร์ฮีโร่ป่วนเมือง”
ระบบต่อสู้เน้น:
- ความเร็ว
- การคอมโบร่วมอาวุธ
- ท่าพลังเฉพาะตัว
- ยิงกลางอากาศ
- การเคลื่อนไหวไหลลื่น
- การโจมตีศัตรูเป็นฝูง
- เอฟเฟกต์แบบสีสันจัดจ้าน
ภาพรวมคือเกมยิงบุคคลที่สาม + แอ็กชันในอากาศ
ที่ทำให้การเล่นดุเดือดแบบ non-stop แทบไม่ต้องหยุดหายใจ
❖ ศัตรู และบอสไฟต์—จริงจังกว่าบทพูด แต่ยังมีความกวนตามสไตล์ทีมนี้
แม้ตัวละครจะกวนโอ๊ยและพูดไม่หยุด
แต่ศัตรูในเกมจริงจังมาก
Brainiac ส่งกองทัพ alien มาถล่มเมือง
และไม่ใช่ศัตรูแบบมาให้ยิงเล่น แต่มาพร้อม:
- โล่เฉพาะประเภท
- จุดอ่อนเฉพาะตัว
- การโจมตีขนาดใหญ่
- การรุมแบบไม่ให้พัก
บอสไฟต์ก็ทำดี โดยเฉพาะตอนต้องสู้กับ “ฮีโร่ที่เคยเป็นของเรา”
ความรู้สึกตอนสู้ Superman หรือ Flash คือทั้งตื่นเต้น ทั้งใจหวิว
เหมือนรู้ว่ากำลังสู้กับเพื่อนที่ถูกควบคุมอยู่
❖ เนื้อเรื่องแบบ Rocksteady—มืด เศร้า ตลก และเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน
สิ่งที่ต้องยอมรับคือ Rocksteady ยังเล่าเรื่องได้ดีมาก
แม้ภาคนี้จะมีโทนเบากว่า Arkham
แต่ก็ยังมีโมเมนต์ดราม่าที่ “จี้ใจผู้เล่นแบบเฉียบ ๆ”
จุดเด่นของเนื้อเรื่องคือ:
- เล่นกับมุมมองของวายร้ายแทนฮีโร่
- การตัดสินใจแบบจำใจ
- ความสัมพันธ์ของทีมที่ค่อย ๆ พัฒนา
- ฉากทวิสต์ที่ทำเอาแฟน DC อึ้ง
- การวิจารณ์ความเป็นฮีโร่ในโลกสมมติ
และใช่…
มีฉากที่คนดู Arkham ลืมไม่ลง
แบบที่ทำให้นั่งเงียบหลังจบฉากแน่นอน
❖ งานภาพ และเสียง—โทนสีสด เสียงยิงกระหึ่ม และดนตรีสุดกวน
เกมนี้ไม่ใช่โทนหม่นแบบ Arkham
แต่เป็นโทน “การ์ตูนแอ็กชันระดับ 18+”
ภาพสด
เอฟเฟกต์สีเรือง
เสียงปืนชัด
ดนตรีมัน
เสียงตัวละครกวนแบบคอมเมดี้แนวร้าย ๆ
โดยเฉพาะ Harley Quinn ที่พูดตลอดเวลา
เหมือนเปิดโหมดพากย์เองแบบไม่มีใครสั่งหยุด
❖ ความเป็นเกม co-op ที่เล่นกับเพื่อนแล้วสนุกขึ้นหลายเท่า
แม้จะเล่นคนเดียวได้
แต่ระบบของเกมทำมาเพื่อเล่นหลายคนอย่างแท้จริง
การสลับท่ากัน
คอมโบในอากาศ
การช่วยเหลือ
การแจกบัฟ
การยิงศัตรูพร้อมกัน
ทั้งหมดทำให้เกมนี้โคตรมันเวลาเล่นกับเพื่อน
และยิ่งปั่นถ้าเพื่อนของคุณกวนโอ๊ยพอ ๆ กับตัวละครในเกม
❖ สรุปทำไม Suicide Squad Kill the Justice League ถึงเป็นเกมที่ “โคตรเอกลักษณ์”
เพราะมันคือการรวมกันของ:
- ภารกิจฆ่าฮีโร่ (ที่ไม่ค่อยมีใครกล้าทำ)
- การเล่าเรื่องระดับ Rocksteady
- ทีมวายร้ายที่กวนแบบสุดใจ
- เกมเพลย์เร็ว มัน และเหวี่ยงสุดพลัง
- เมืองใหญ่ที่เคลื่อนที่ได้สนุก
- บอสไฟต์กับฮีโร่ระดับตำนาน
- โทนสีจัดจ้านแบบตลกปนเศร้า
นี่คือเกมที่ “ห้ามคาดหวังตามสูตร”
เพราะมันทำอะไรนอกกรอบตลอดเวลา
⚔️Suicide Squad Kill the Justice League เกมที่พลิกบทฮีโร่ให้กลายเป็นศัตรูสุดเดือด คือความบ้าระห่ำที่ทั้งมัน ทั้งแสบ และทั้งกล้าในแบบที่ DC ไม่เคยทำมาก่อน
ท้ายที่สุด
Suicide Squad Kill the Justice League เกมที่พลิกบทฮีโร่ให้กลายเป็นศัตรูสุดเดือด
คือเกมที่เต็มไปด้วย:
- ความมันแบบยิงไม่หยุด
- อารมณ์ขันที่กวนแบบเกินพิกัด
- ความดราม่าที่ลึกแบบไม่คาดคิด
- ความยิ่งใหญ่ของจักรวาล DC
- ตัวเลือกที่ส่งผลจริงจัง
- ตัวละครที่มีเอกลักษณ์จนรักไม่ลง แต่ก็รักมาก
- ความวุ่นวายที่สนุกจนหยุดเล่นไม่ได้
ทุกวินาทีที่ปล่อยตัวละครโจนลงจากตึก
ทุกครั้งที่ยิงศัตรูแบบฟาดฟันกันกลางเมือง
ทุกมุกกวน ๆ ของ Harley Quinn
มันให้ความรู้สึกตื่นเต้นแบบเดียวกับตอนคลิกเข้าเว็บ ทางเข้า UFABET ล่าสุด
ที่ทั้งลุ้น ทั้งมัน ทั้งรู้ว่ามีอะไรยิ่งใหญ่รออยู่ตรงหน้า
สำหรับสายแอ็กชัน
สายเนื้อเรื่อง
สาย DC
หรือสายปั่นเพื่อนในโหมด co-op
นี่คือเกมที่ควรลองอย่างยิ่ง!